ดึงลึกถึงต้นตอของสาเหตุความหย่อนคล้อยของใบหน้า
บอกลาริ้วรอยร่องแก้ม แก้ไขตรงจุด หายขาด
ยกกระชับผิวตึงขึ้น ชั้นผิวดีขึ้น
หลังยกกระชับหน้าจะช่วยกระตุ้นคอลลาเจนใช้ชั้นผิว ทำให้ผิวหน้าดูเด็กลง
การผ่าตัดดึงหน้าด้วยเทคนิค SMAS คืออะไร
การผ่าตัดดึงหน้าด้วยเทคนิค SMAS (Superficial Musculoaponeurotic System)
เป็นหัตถการเพื่อยกและกระชับผิวหนังและกล้ามเนื้อที่อยู่บริเวณส่วนลึกของใบหน้าในชั้น SMAS เทคนิคนี้มุ่งเน้นไปที่การปรับปรุงเนื้อเยื่อและกล้ามเนื้อที่ห่อหุ้มกระดูกของโครงสร้างใบหน้า ซึ่งทำให้ใบหน้ามีรูปทรงเป็นเอกลัษณ์เฉพาะของแต่ละบุคคล
ในการทำหัตถการนี้ ศัลยแพทย์จะเริ่มโดยการเปิดแผลบริเวณหน้าหูและหลังหู จากนั้นจะเลาะใต้ผิวไปถึงร่องแก้มและแนวกราม เพื่อเข้าถึงชั้นของกล้ามเนื้อ การดึงกล้ามเนื้อส่วนที่หย่อนคล้อยจะทำให้มันตึงกระชับขึ้น เย็บเนื้อเยื่อดังกล่าวติดกับกล้ามเนื้อหน้าใบหูและตัดส่วนเกินออก เป็นการยกตำแหน่งของกล้ามเนื้อและเนื้อเยื่อให้ตึงกระชับ
สุดท้าย การดึงผิวหนังชั้นนอกให้ตึงพอดีกับโครงสร้างของกล้ามเนื้อบนใบหน้าที่เตรียมไว้ จะช่วยตัดหนังส่วนเกินออก เพื่อสร้างใบหน้าที่สดใส เต่งตึง และดูอ่อนเยาว์ นอกจากนี้ เทคนิคนี้ยังสามารถแก้ไขปัญหาผิวหนังและกล้ามเนื้อบนใบหน้าและลำคอที่หย่อนคล้อย รวมถึงมีผิวหนังส่วนเกิน ริ้วรอยบนใบหน้า และการสูญเสียไขมันบางส่วนบนใบหน้าได้อีกด้วย
- เวลาในการผ่าตัด : ประมาณ 6 ชั่วโมง (หรือส่วนละ 2-3 ชั่วโมง)
- ประเภทของยาชาที่ใช้ : ยาสงบประสาท (IV Sedation) หรือยาสลบ (General Anesthesia)
- การตัดไหม : 7-10 วัน
- ระยะเวลาพักฟื้น : 1-2 สัปดาห์
- ระยะเวลาเข้าที่ : 3-6 เดือน
- ระยะเวลาการดูแลหลังทำช่วงแรก : รัดผ้า 24 ชั่วโมง 1 อาทิตย์แรก
- ระยะเวลาการดูแลหลังทำช่วงที่สอง : รัดผ้าตอนนอน 1 เดือน
ขั้นตอนศัลยกรรมดึงหน้า
บริเวณที่เห็นผล: ใบหน้าโดยรวมและกลางใบหน้า, ร่องแก้ม, โหนกแก้ม, แก้ม, ขากรรไกร, คาง, ลำคอ
ขั้นตอนศัลยกรรมดึงคอ
การดึงคอเป็นการผ่าตัด ที่มีการทำร่วมกับการดึงหน้าแบบสมบูรณ์ (Full Face Lift) แต่ใช้ในคนไข้บางรายที่มีปัญหาคอหย่อนมากกว่าบริเวณใบหน้า หรือในบางรายที่เคยผ่าตัดดึงหน้าส่วนบน (Anterior Face Lift) ไปแล้ว และต้องการดึงคอเพิ่ม เป็นทางเลือกสำหรับกลุ่มนี้
- ผลที่ได้จากการดึงคอ ทำให้ริ้วรอยของใบหน้าส่วนล่างลดลง ลดความหย่อนยานของเหนียงคอ (Jowl)
- ในผู้ที่มีคอหย่อนยาน มักมีไขมันสะสมใต้คอ โดยทั่วไปมีการผ่าตัด สามารถทำร่วมกับการดูดไขมันใต้คอ จะทำให้ผลการผ่าตัดดีขึ้นมาก
ศัลยกรรมดึงหน้า ส่วนไหนเหมาะกับใคร?
ศัลยกรรมดึงหน้า Ultimate Face Lock
ผู้ที่มีริ้วรอยเหี่ยวย่นบริเวณหน้าผากอย่างชัดเจนแม้ไม่ได้ยักคิ้วหรือขมวดคิ้ว
ผู้ที่มีหนังตาตก, หางคิ้วตกมีริ้วรอยตีนกาที่เห็นได้ชัดเจนแม้ไม่ได้ยิ้ม
ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณร่องแก้มร่องลึก, แก้มมีความหย่อนคล้อยมาก
ผู้ที่มีริ้วรอยบริเวณร่องน้ำหมาก, ร่องลึก, กรอบหน้าไม่ชัด, ใบหน้าหย่อนคล้อย
ผู้ที่มีร่องลึกที่ลำคอ, รอยเหี่ยวย่นที่ลำคอและมีเหนียงบริเวณลำคอ
เทคนิคซ่อนรอยแผล The Art Clinic
ศัลยกรรมดึงหน้าเทคนิคซ่อนรอยแผล Ultimate Face Lock
- ความมั่นคงสูง: การออกแบบที่ช่วยให้วัสดุเสริมล็อกเข้ากับกระดูกช่วยเพิ่มความมั่นคง ลดความเสี่ยงของการเคลื่อนที่หรือหมุนเวียนของวัสดุเสริม
- ความเรียบร้อยของผลลัพธ์: ช่วยให้ผลลัพธ์หลังการศัลยกรรมมีความเรียบร้อย และดูเป็นธรรมชาติมากขึ้น
- ความปลอดภัย: ลดความเสี่ยงของการติดเชื้อและปัญหาอื่นๆ ที่อาจเกิดจากการเคลื่อนที่ของวัสดุเสริม
ผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านกล้อง
Endoscopic Forehead & Brow Lift with Endotine
การผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านกล้อง (Endoscopic Forehead & Brow Lift) ได้รับการพัฒนามาจากวิธีการผ่าตัดแบบดั้งเดิมที่ต้องตัดหนังศีรษะทิ้ง มาเป็นการผ่าตัดดึงหน้าผากและคิ้วผ่านการส่องกล้องที่ศัลยแพทย์ผู้ชำนาญจะเปิดแผลไม่เกิน 2 เซนติเมตร จำนวน 2-3 จุด จากนั้นจะใช้กล้องเอนโดสโคปสอดเข้าไปเพื่อแสดงผลกล้ามเนื้อ เส้นเลือด และเส้นประสาทที่ชัดเจนผ่านจอภาพ โดยใช้เครื่องมือพิเศษเลาะแยกชั้นเนื้อเยื่อหุ้มกระดูกออกจากกะโหลกศีรษะ แล้วจึงดึงและยึดกล้ามเนื้อที่หย่อนคล้อยขึ้นไปด้านบน โดยใช้ Endotine วัสดุทางการแพทย์ที่มีลักษณะเป็นหมุดขนาดเล็ก ถูกออกแบบมาให้กระจายแรงได้ดี เพื่อยกกระชับ ยึดผิวหนัง ลดริ้วรอย และสามารถสลายได้เองตามธรรมชาติเข้ามาช่วย จึงยกผิวได้เรียบตึงโดยไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะทิ้ง ช่วยลดระยะเวลาในการผ่าตัดเหลือเพียง 1-2 ชั่วโมง แผลมีขนาดเล็กซ่อนในไรผมได้ พักฟื้นไม่นาน เส้นประสาทและเนื้อเยื่อไม่เกิดความเสียหาย ซึ่งผลลัพธ์หลังการผ่าตัดอยู่ได้นานประมาณ 5 ปีขึ้นไป โดยขึ้นอยู่กับสภาพผิวและพฤติกรรมการใช้ชีวิต
ทีมแพทย์ผู้ชำนาญการดึงหน้า
ประวัติของทีมแพทย์ผู้ชำนาญการ
การทำศัลยกรรมดึงหน้าผากและคิ้วด้วยวิธีการส่องกล้อง
การศัลยกรรมชนิดนี้ใช้กล้องผ่าตัดเอ็นดอสโคพี (Endoscopy) คุณภาพสูงช่วยให้แพทย์สามารถเห็นเนื้อเยื่อและเส้นเลือดอย่างชัดเจน เพื่อป้องกันไม่ให้เส้นประสาท หลอดเลือด และเนื้อเยื่อ เกิดความเสียหาย ทำให้ลดการบาดเจ็บขณะผ่าตัด และแผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก
การศัลยกรรมชนิดนี้ใช้การผ่ากรีดขนาดเล็กจึงทำให้การเสียเลือดมีปริมาณน้อยมาก
รอยผ่ากรีดด้านล่างไรผมมีขนาดเล็กมากและปกคลุมด้วยเส้นผม จึงทำให้แทบจะมองไม่เห็น
ข้อดีของการศัลยกรรมด้วยการส่องกล้องคือลูกค้าใช้ระยะเวลาพักฟื้นไม่นาน และรอยแผลเป็นจากการผ่ากรีดมีน้อยมาก
Check List : ก่อนศัลยกรรมดึงหน้า
คำแนะนำ : ข้อควรปฏิบัติก่อนการศัลยกรรมดึงหน้า
- ตรวจเช็คสุขภาพและโรคประจำตัวอย่างละเอียด เพื่อแจ้งให้แพทย์ทราบก่อนการผ่าตัด
- งดสูบบุหรี่อย่างน้อย1เดือน ก่อนการผ่าตัด
- งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในคืนก่อนผ่าตัด
- งดกลุ่มยาที่มีผลต่อการหยุดเลือด เช่น กลุ่มยาละลายลิ่มเลือด วิตามิน คอลลาเจน อาหารเสริม สมุนไพรต่างๆ อย่างน้อย 1-2 สัปดาห์
- เคสที่ต้องใช้ยาสลบ ควรงดน้ำและอาหารอย่างน้อย 8 ชั่วโมง
- ใส่เสื้อผ้าที่หลวมสบาย ถอด-ใส่ง่าย งดการแต่งหน้า งดการทาเล็บ ในวันผ่าตัด
- สระผมมาก่อนวันผ่าตัด งดใช้สเปรย์และเจล แต่งผมต่างๆ
- เตรียมภาวะจิตใจให้พร้อม ไม่ตื่นเต้นจนเกินไป และควรรับทราบว่าหลังการผ่าตัดมีโอกาสเกิด ความบวม/รอยช้ำ ซึ่งต้องใช้เวลาในการเข้าที่
- ควรอ่านและทำความเข้าใจในรายละเอียด Informed Consent (ใบข้อมูล-ยินยอมผ่าตัด) ก่อนเซ็นชื่อ
คำแนะนำ : หลังการศัลยกรรมดึงหน้า
ข้อควรปฏิบัติหลังการศัลยกรรมดึงหน้า
- ควรประคบเย็น 48 ชั่วโมงแรก เพื่อให้เส้นเลือดบริเวณที่ผ่าตัดมีการหดตัวเพื่อลดอาการบวม หลัง 1 สัปดาห์ เริ่มประคบอุ่น เพื่อให้ระบบเลือดไหลเวียนดีขึ้น
- นอนยกศีรษะสูง 45-90 องศา อย่างน้อย 2-3 วัน เพื่อช่วยลดอาการบวม
- 2 วันหลังผ่าตัด สามารถแกะพลาสเตอร์ที่แปะบริเวณแผลผ่าตัดออกได้ หลังจากแกะพลาสเตอร์ออกให้ใช้ Terramycin Ointment ทาบริเวณไหมเย็บวันละ 2 ครั้ง เช้า-เย็น
- งดกิจกรรมการออกกำลังกายทุกชนิดที่ทำให้กระทบกระเทือน หรือการชนกระแทกบริเวณที่ผ่าตัด 2 อาทิตย์ หลังผ่าตัด
- หลีกเลี่ยงไม่ให้แผลโดนน้ำ และห้ามแกะเกาแผลจนกว่าจะตัดไหม
- สังเกตอาการผิดปกติของแผลบริเวณใบหน้า เช่น มีไข้, เลือดออก, บวม, แดง หากมีอาการผิดปกติควรมาพบแพทย์ทันที
- งดสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ของหมักดอง อย่างน้อย 1 เดือน หลังผ่าตัด
- ควรมาพบแพทย์เพื่อติดตามอาการอย่างต่อเนื่อง เพื่อตรวจความเรียบร้อยหลังผ่าตัดเมื่อครบ 1 อาทิตย์, 1 เดือน, 3 เดือน และ 6 เดือน